คลัง ชี้ กทม. มีอำนาจใช้ดุลพินิจ เก็บภาษีคนจงใจเลี่ยงภาษี
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีกรุงเทพมหานคร เข้าหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ปัญหาการนำที่รกร้างว่างเปล่าใจกลางเมืองมาปลูกพืชบางชนิดเพื่อเลี่ยงเสียภาษีให้ถูกลงว่า คณะอนุกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานครในกรณีดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด จะต้องรอให้มีการนำเสนอเรื่องมาให้ก่อน เพราะตามหลักการคณะอนุกรรมการดังกล่าว จะต้องส่งคำวินิจฉัยดังกล่าวมาให้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีตนในฐานะปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
สำหรับหลักการจัดเก็บภาษีที่ดิน ได้ให้อำนาจท้องถิ่นในการใช้ดุลยพินิจพิจารณารายละเอียดเองได้ เช่น หากพบว่า มีการปลูกพืชการเกษตรเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ก็สามารถจัดเก็บภาษีได้เลย โดยเรื่องนี้ต้องดูที่เจตนาด้วย แม้ว่าจะมีการปลูกพืชเกษตรในที่รกร้างว่างเปล่า ถ้าเจตนาเลี่ยงภาษี ทางท้องถิ่นก็ต้องใช้ดุลพินิจในการพิจารณาว่า จะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มหรือไม่ อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บภาษีที่รกร้างว่างเปล่า ก็เพราะต้องการให้เกิดการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์มากขึ้น หากการปลูกพืชเกษตรตามข้อกำหนดของกฎหมาย ก็ถือว่า มีการใช้ประโยชน์จากที่ดินนั้นอย่างถูกต้องคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายกฤษฎา กล่าวว่า ตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้กำหนดการเก็บภาษีที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าให้อัตราสูงกว่าที่ดินประเภทอื่น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งหากเป็นที่ดินรกร้างไม่ว่าอยู่ที่ใด หากเจ้าของที่ดินนำที่ดินแปลงนั้นไปทำการเกษตร ตามข้อกำหนดว่า จะต้องมีต้นไม้ในพื้นที่กี่ต้นต่อไร่ หากเป็นไปตามข้อกำหนดที่กฎหมาย กำหนด ก็ต้องถือว่าที่ดินแปลงนั้นได้ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้กำหนดเพดานภาษีสูงสุด ที่จะให้อำนาจท้องถิ่นในการจัดเก็บภาษีตัวนี้ ตามประเภทที่ดินดังนี้ คือ ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราเพดานอยู่ที่ 0.15% ของมูลค่าที่ดิน, ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย เพดานอยู่ที่ 0.3% ของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินประเภทอื่นนอกเหนือจากเกษตรกรรม และที่อยู่อาศัย เช่น ที่ดินที่ใช้ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม รวมถึงที่ดินรกร้างว่างเปล่า มีเพดานอยู่ที่ 1.2%
“คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะกำหนดอัตราภาษีแนะนำ แต่ละประเภทที่ดินให้เป็นแนวทางให้ท้องถิ่นจัดเก็บ ซึ่งท้องถิ่นสามารถจัดเก็บในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราแนะนำ หรือสูงกว่าก็ได้ แต่ต้องไม่เกินเพดานที่กำหนด”